การเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติก เป็นขั้นตอนถัดมาหลังจากรู้แล้วว่าจะผลิตเครื่องสำอางประเภทไหน เพราะรูปแบบบรรจุภัณฑ์ต้องสอดคล้องกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ ทั้งในแง่ของการใช้งาน เนื้อสัมผัสความคงทน การเก็บรักษา และการออกแบบที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่กำลังตัดสินใจ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าบริการรับผลิตกระปุกพลาสติกมีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณมากที่สุด
ทำความเข้าใจ 2 รูปแบบหลักของบริการรับผลิตกระปุกพลาสติก
- รับผลิตกระปุกพลาสติกตามแบบสำเร็จรูป (Stock Packaging)
บรรจุภัณฑ์รูปแบบนี้ คือกระปุกพลาสติกที่มีการออกแบบ และผลิตไว้เรียบร้อยแล้วโดยโรงงานผู้ผลิต ซึ่งจะมีรูปทรง ขนาด และสีสันมาตรฐานให้เลือกหลากหลาย โรงงานจะมีแคตตาล็อกสินค้าให้เจ้าของแบรนด์ได้เลือกสรรตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์ และสั่งซื้อในจำนวนที่ต้องการ จากนั้นจึงนำไปติดฉลาก หรือสกรีนโลโก้แบรนด์ของตนเองเพิ่มเติมได้เลย
-
- ข้อดี
- เริ่มต้นง่ายและรวดเร็ว: เนื่องจากมีกระปุกพร้อมส่งอยู่แล้ว จึงช่วยลดระยะเวลาในการผลิต เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการนำสินค้าออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว
- ขั้นต่ำในการสั่งผลิต (MOQ) ไม่สูง: โรงงานส่วนใหญ่มักกำหนดจำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำที่น้อยกว่า ทำให้แบรนด์เล็ก หรือแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นสามารถจัดการงบประมาณได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าจำนวนมาก
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และพัฒนาแม่พิมพ์ใหม่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูง
- เห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจ: สามารถจับต้อง และทดลองใช้งานกระปุกจริงได้ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งผลิตในปริมาณมาก
- ข้อจำกัด
- ความแตกต่างที่จำกัด: รูปแบบ และดีไซน์อาจไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดมากนัก เพราะเป็นดีไซน์มาตรฐานที่ใครก็สามารถเลือกใช้ได้
- การสร้างเอกลักษณ์: การสร้างความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะขึ้นอยู่กับการออกแบบฉลาก, การสกรีนโลโก้ หรือการเลือกใช้สีสันเป็นหลัก
- ข้อดี
- รับผลิตกระปุกพลาสติกแบบสั่งผลิตตามแบบ (Custom Mold/OEM )
รูปแบบนี้ คือการที่เจ้าของแบรนด์ทำงานร่วมกับโรงงานผู้รับผลิตกระปุกพลาสติกเพื่อออกแบบ และสร้างสรรค์กระปุกพลาสติกขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่รูปทรง, ขนาด, สี, ไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งานพิเศษต่าง ๆ ที่ไม่มีในตลาด เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างสูงสุด กระบวนการนี้มีการลงทุนในการสร้าง “แม่พิมพ์” สำหรับการฉีดขึ้นรูปพลาสติก
-
- ข้อดี
- เอกลักษณ์และความโดดเด่น: สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปทรง และดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร สร้างการจดจำ และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
- ตอบโจทย์ฟังก์ชันเฉพาะทาง: สามารถออกแบบให้มีฟังก์ชันพิเศษที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ได้ และตอบโจทย์กับการใช้งานของผู้บริโภคในบางกลุ่ม
- กรรมสิทธิ์ในการออกแบบตามกฎหมาย: แบรนด์ของคุณจะเป็นเจ้าของดีไซน์นั้นแต่เพียงผู้เดียว ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีแบรนด์อื่นลอกเลียนได้ เป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านภาพลักษณ์ และกฎหมาย
- ข้อจำกัด
- ต้นทุนเริ่มต้นสูง: มีค่าใช้จ่ายในการสร้างแม่พิมพ์ ซึ่งอาจมีราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของดีไซน์
- ระยะเวลาในการผลิตนาน: กระบวนการตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาและยืนยันแบบ การสร้างแม่พิมพ์ ไปจนถึงการผลิตล็อตแรก อาจใช้เวลาหลายเดือน
- ข้อดี
เลือกชนิดพลาสติกให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
นอกจากการเลือกรูปแบบบริการแล้ว การเลือกชนิดของพลาสติกก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะพลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านความสวยงาม ความทนทาน และการปกป้องเนื้อผลิตภัณฑ์
- PP (Polypropylene): เป็นพลาสติกที่มีความทนทานต่อความร้อน และสารเคมี เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ครีม และสครับที่ต้องเปิด-ปิดบ่อย ๆ น้ำหนักเบา และไม่เปราะง่าย จึงเป็นวัสดุยอดนิยมในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไป
- PET (Polyethylene Terephthalate): มีความใสคล้ายแก้ว แต่เหนียวและทนทาน ไม่เปราะแตกง่าย ช่วยให้มองเห็นเนื้อผลิตภัณฑ์ด้านในได้อย่างชัดเจน เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโชว์สีสัน เช่น เจล หรือครีมที่มีเนื้อสัมผัสสวยงาม
- PE (Polyethylene): เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง แบ่งเป็น LDPE และ HDPE โดย LDPE เหมาะกับหลอดครีม และผลิตภัณฑ์ที่ต้องบีบใช้งานง่าย ส่วน HDPE มีความแข็งแรงและทึบแสง ป้องกันแสงและความชื้นได้ดี เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสง เช่น ครีมกันแดดและโลชั่นกลางคืน
- SAN (Styrene Acrylonitrile): เป็นพลาสติกที่มีความโปร่งใส คล้ายแก้ว แข็งแรงทนทานต่อสารเคมี และแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง
สรุปเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกเลือกแบบไหนดี
แน่นอนว่าผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกมีเยอะมาก ยิ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางมือใหม่แล้วด้วย การเลือกให้ถูกใจ เลือกให้ตรงกับความต้องการเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักใจ แต่ปัญหานี้จะง่ายขึ้นทันที หากเราเริ่มต้นจากการตั้งหลักถามความต้องการของแบรนด์ตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า เราต้องการทดลองตลาดด้วยจำนวนน้อย ๆ หรือพร้อมผลิตในปริมาณมาก? งบประมาณสำหรับบรรจุภัณฑ์ต่อชิ้นอยู่ที่เท่าไหร่? และที่สำคัญ ภาพลักษณ์ของแบรนด์เราเป็นแบบไหน เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว การเลือกที่เคยดูน่าปวดหัว ก็จะกลายเป็นขั้นตอนการเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกที่ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกกับ เอช.เอช.พี. แพ็คเกจจิ้ง
โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกครบวงจร ที่เชี่ยวชาญด้านกระปุกพลาสติกหลากหลายชนิด รวมถึงผลิตขวดพลาสติก, ผลิตแกลลอน, ผลิตขวดยา, ผลิตกระปุกยา, ผลิตขวด PET, ผลิตกระปุก PVC, ผลิตขวดบรรจุภัณฑ์ ที่รองรับบริการทั้ง OEM และ ODM ใช้วัสดุคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม สนใจสั่งซื้อสินค้า สอบถามข้อมูล บริการให้คำปรึกษาจากทีมงานมืออาชีพ ฟรี!
คำถามที่พบบ่อย
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์เองกับใช้แบบที่โรงงานมีอยู่แล้ว แบบไหนดีกว่า?
ถ้าต้องการความเร็ว และประหยัดงบ การใช้แบบที่โรงงานมีอยู่แล้วก็เหมาะ แต่ถ้าอยากสร้างภาพลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบบรรจุภัณฑ์เองย่อมดีกว่า แต่ก็จะมีต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นมา
- ทำไมต้องให้ความสำคัญกับการเลือกกระปุกพลาสติกตั้งแต่เริ่มต้นแบรนด์?
เพราะบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ผู้บริโภค ทั้งในแง่ภาพลักษณ์แบรนด์ ความปลอดภัยในการใช้งาน การคงคุณภาพของเนื้อผลิตภัณฑ์ และการเก็บรักษา เพราะฉะนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
- วัสดุกระปุกพลาสติกมีผลต่อเนื้อครีมหรือเซรั่มไหม?
มี เพราะสารบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับพลาสติกที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ มาตรฐานด้านความปลอดภัย เลือกวัสดุที่ผ่านมาตรฐานการบรรจุเครื่องสำอางโดยเฉพาะจะดีที่สุด
- มีวิธีตรวจสอบคุณภาพกระปุกก่อนสั่งผลิตจริงไหม?
ควรขอตัวอย่างกระปุกมาทดสอบก่อน เช่น ดูความแน่นของฝาปิด ความทนทานต่อแรงกด ความหนาของพลาสติก และการรั่วซึมเมื่อใส่ผลิตภัณฑ์