เริ่มต้นแบรนด์เครื่องสำอาง เลือกบริการรับผลิตกระปุกพลาสติกแบบไหนดี?

สารบัญ

การเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติก เป็นขั้นตอนถัดมาหลังจากรู้แล้วว่าจะผลิตเครื่องสำอางประเภทไหน เพราะรูปแบบบรรจุภัณฑ์ต้องสอดคล้องกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ ทั้งในแง่ของการใช้งาน เนื้อสัมผัสความคงทน การเก็บรักษา และการออกแบบที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่กำลังตัดสินใจ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าบริการรับผลิตกระปุกพลาสติกมีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณมากที่สุด

 

ทำความเข้าใจ 2 รูปแบบหลักของบริการรับผลิตกระปุกพลาสติก

  1. รับผลิตกระปุกพลาสติกตามแบบสำเร็จรูป (Stock Packaging)
    บรรจุภัณฑ์รูปแบบนี้ คือกระปุกพลาสติกที่มีการออกแบบ และผลิตไว้เรียบร้อยแล้วโดยโรงงานผู้ผลิต ซึ่งจะมีรูปทรง ขนาด และสีสันมาตรฐานให้เลือกหลากหลาย โรงงานจะมีแคตตาล็อกสินค้าให้เจ้าของแบรนด์ได้เลือกสรรตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์ และสั่งซื้อในจำนวนที่ต้องการ จากนั้นจึงนำไปติดฉลาก หรือสกรีนโลโก้แบรนด์ของตนเองเพิ่มเติมได้เลย
    • ข้อดี
      • เริ่มต้นง่ายและรวดเร็ว: เนื่องจากมีกระปุกพร้อมส่งอยู่แล้ว จึงช่วยลดระยะเวลาในการผลิต เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการนำสินค้าออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว
      • ขั้นต่ำในการสั่งผลิต (MOQ) ไม่สูง: โรงงานส่วนใหญ่มักกำหนดจำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำที่น้อยกว่า ทำให้แบรนด์เล็ก หรือแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นสามารถจัดการงบประมาณได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าจำนวนมาก
      • ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และพัฒนาแม่พิมพ์ใหม่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูง
      • เห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจ: สามารถจับต้อง และทดลองใช้งานกระปุกจริงได้ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งผลิตในปริมาณมาก
    • ข้อจำกัด
      • ความแตกต่างที่จำกัด: รูปแบบ และดีไซน์อาจไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดมากนัก เพราะเป็นดีไซน์มาตรฐานที่ใครก็สามารถเลือกใช้ได้
      • การสร้างเอกลักษณ์: การสร้างความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะขึ้นอยู่กับการออกแบบฉลาก, การสกรีนโลโก้ หรือการเลือกใช้สีสันเป็นหลัก
  1. รับผลิตกระปุกพลาสติกแบบสั่งผลิตตามแบบ (Custom Mold/OEM )
    รูปแบบนี้ คือการที่เจ้าของแบรนด์ทำงานร่วมกับโรงงานผู้รับผลิตกระปุกพลาสติกเพื่อออกแบบ และสร้างสรรค์กระปุกพลาสติกขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่รูปทรง, ขนาด, สี, ไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งานพิเศษต่าง ๆ ที่ไม่มีในตลาด เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างสูงสุด กระบวนการนี้มีการลงทุนในการสร้าง “แม่พิมพ์” สำหรับการฉีดขึ้นรูปพลาสติก
    • ข้อดี
      • เอกลักษณ์และความโดดเด่น: สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปทรง และดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร สร้างการจดจำ และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
      • ตอบโจทย์ฟังก์ชันเฉพาะทาง: สามารถออกแบบให้มีฟังก์ชันพิเศษที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ได้ และตอบโจทย์กับการใช้งานของผู้บริโภคในบางกลุ่ม
      • กรรมสิทธิ์ในการออกแบบตามกฎหมาย: แบรนด์ของคุณจะเป็นเจ้าของดีไซน์นั้นแต่เพียงผู้เดียว ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีแบรนด์อื่นลอกเลียนได้ เป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านภาพลักษณ์ และกฎหมาย
    • ข้อจำกัด
      • ต้นทุนเริ่มต้นสูง: มีค่าใช้จ่ายในการสร้างแม่พิมพ์ ซึ่งอาจมีราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของดีไซน์
      • ระยะเวลาในการผลิตนาน: กระบวนการตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาและยืนยันแบบ การสร้างแม่พิมพ์ ไปจนถึงการผลิตล็อตแรก อาจใช้เวลาหลายเดือน

 

เลือกชนิดพลาสติกให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

นอกจากการเลือกรูปแบบบริการแล้ว การเลือกชนิดของพลาสติกก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะพลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านความสวยงาม ความทนทาน และการปกป้องเนื้อผลิตภัณฑ์

  1. PP (Polypropylene): เป็นพลาสติกที่มีความทนทานต่อความร้อน และสารเคมี เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ครีม และสครับที่ต้องเปิด-ปิดบ่อย ๆ น้ำหนักเบา และไม่เปราะง่าย จึงเป็นวัสดุยอดนิยมในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไป
  2. PET (Polyethylene Terephthalate): มีความใสคล้ายแก้ว แต่เหนียวและทนทาน ไม่เปราะแตกง่าย ช่วยให้มองเห็นเนื้อผลิตภัณฑ์ด้านในได้อย่างชัดเจน เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโชว์สีสัน เช่น เจล หรือครีมที่มีเนื้อสัมผัสสวยงาม
  3. PE (Polyethylene): เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง แบ่งเป็น LDPE และ HDPE โดย LDPE เหมาะกับหลอดครีม และผลิตภัณฑ์ที่ต้องบีบใช้งานง่าย ส่วน HDPE มีความแข็งแรงและทึบแสง ป้องกันแสงและความชื้นได้ดี เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสง เช่น ครีมกันแดดและโลชั่นกลางคืน
  4. SAN (Styrene Acrylonitrile): เป็นพลาสติกที่มีความโปร่งใส คล้ายแก้ว แข็งแรงทนทานต่อสารเคมี และแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง

 

สรุปเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกเลือกแบบไหนดี

แน่นอนว่าผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกมีเยอะมาก ยิ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางมือใหม่แล้วด้วย การเลือกให้ถูกใจ เลือกให้ตรงกับความต้องการเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักใจ แต่ปัญหานี้จะง่ายขึ้นทันที หากเราเริ่มต้นจากการตั้งหลักถามความต้องการของแบรนด์ตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า เราต้องการทดลองตลาดด้วยจำนวนน้อย ๆ หรือพร้อมผลิตในปริมาณมาก? งบประมาณสำหรับบรรจุภัณฑ์ต่อชิ้นอยู่ที่เท่าไหร่? และที่สำคัญ ภาพลักษณ์ของแบรนด์เราเป็นแบบไหน เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว การเลือกที่เคยดูน่าปวดหัว ก็จะกลายเป็นขั้นตอนการเลือกผู้ให้บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกที่ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

 

บริการรับผลิตกระปุกพลาสติกกับ เอช.เอช.พี. แพ็คเกจจิ้ง

โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกครบวงจร ที่เชี่ยวชาญด้านกระปุกพลาสติกหลากหลายชนิด รวมถึงผลิตขวดพลาสติก, ผลิตแกลลอน, ผลิตขวดยา, ผลิตกระปุกยา, ผลิตขวด PET, ผลิตกระปุก PVC, ผลิตขวดบรรจุภัณฑ์ ที่รองรับบริการทั้ง OEM และ ODM ใช้วัสดุคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม สนใจสั่งซื้อสินค้า สอบถามข้อมูล บริการให้คำปรึกษาจากทีมงานมืออาชีพ ฟรี!

 

คำถามที่พบบ่อย

  1. การออกแบบบรรจุภัณฑ์เองกับใช้แบบที่โรงงานมีอยู่แล้ว แบบไหนดีกว่า?
    ถ้าต้องการความเร็ว และประหยัดงบ การใช้แบบที่โรงงานมีอยู่แล้วก็เหมาะ แต่ถ้าอยากสร้างภาพลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบบรรจุภัณฑ์เองย่อมดีกว่า แต่ก็จะมีต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นมา
  1. ทำไมต้องให้ความสำคัญกับการเลือกกระปุกพลาสติกตั้งแต่เริ่มต้นแบรนด์?
    เพราะบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ผู้บริโภค ทั้งในแง่ภาพลักษณ์แบรนด์ ความปลอดภัยในการใช้งาน  การคงคุณภาพของเนื้อผลิตภัณฑ์ และการเก็บรักษา เพราะฉะนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
  1. วัสดุกระปุกพลาสติกมีผลต่อเนื้อครีมหรือเซรั่มไหม?
    มี เพราะสารบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับพลาสติกที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ มาตรฐานด้านความปลอดภัย  เลือกวัสดุที่ผ่านมาตรฐานการบรรจุเครื่องสำอางโดยเฉพาะจะดีที่สุด
  1. มีวิธีตรวจสอบคุณภาพกระปุกก่อนสั่งผลิตจริงไหม?
    ควรขอตัวอย่างกระปุกมาทดสอบก่อน เช่น ดูความแน่นของฝาปิด ความทนทานต่อแรงกด ความหนาของพลาสติก  และการรั่วซึมเมื่อใส่ผลิตภัณฑ์